
ในโลกของสกินแคร์ “Niacinamide” หรือที่รู้จักกันในชื่อ วิตามินบี3 ทาหน้า ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากคุณสมบัติหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ลดรอยสิว, ควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน ไปจนถึงปรับสีผิวให้ดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ไนอะซินาไมด์จะกลายเป็นหนึ่งในสารบำรุงผิวยอดนิยมสำหรับคนที่มองหา เซรั่มบำรุงผิวหน้า 2025 ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องผิวหมองคล้ำและปัญหาสิว ในปี 2025 มีการพัฒนาสูตรใหม่ ๆ จากแบรนด์ดังและแบรนด์คลีนบิวตี้มากมาย ทั้งในรูปแบบของ เซรั่มบำรุงผิวหน้า 2025 และเนื้อสัมผัสใหม่ ๆ อย่างเจลน้ำหรือมิลกี้เซรั่ม ที่ซึมไวแต่ยังคงประสิทธิภาพเข้มข้น นอกจากนี้ยังมีการผสมสารอื่น ๆ เช่น Tranexamic Acid หรือ Peptides เพื่อเสริมฤทธิ์ให้เห็นผลชัดขึ้น
บทความนี้ Thebeautyrank รวบรวมรีวิวแบบเจาะลึกจากผู้ใช้จริงและแบรนด์ที่ติดอันดับยอดนิยม มาให้คุณได้เลือก “10 อันดับ Niacinamide ยี่ห้อไหนดี 2025” อย่างมั่นใจ โดยคัดมาแล้ว 10 ตัวเด็ดที่ต้องลอง!
Niacinamide คืออะไร?
Niacinamide หรือที่รู้จักกันในชื่อ วิตามินบี3 ทาหน้า เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินบี3 ที่ละลายน้ำได้และมีคุณสมบัติเด่นในการดูแลผิวอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเรื่อง ลดรอยสิว, กระชับรูขุมขน และปรับสมดุลความมันบนผิวหน้า
Niacinamide ทำงานโดยการเสริมเกราะป้องกันผิว (skin barrier) เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว พร้อมลดการอักเสบและปัญหาผิวจากมลภาวะหรือการระคายเคือง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง ผิวมัน หรือแม้กระทั่งผู้ที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง อีกทั้งยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำและรอยแดงได้อย่างอ่อนโยน จึงได้รับความนิยมในเซรั่มบำรุงผิวหน้าอย่างแพร่หลายในปี 2025 นี้
ผลิตภัณฑ์ที่มี Niacinamide มักถูกพัฒนาให้เข้ากับสารบำรุงอื่น ๆ เช่น Zinc หรือ Hyaluronic Acid เพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านความชุ่มชื้นและลดการเกิดสิว ทำให้ Niacinamide กลายเป็นคำตอบสำหรับใครที่กำลังมองหา รูขุมขนกระชับ ตัวไหนดี แบบปลอดภัยและเห็นผลจริง
10 อันดับ Niacinamide ยี่ห้อไหนดี 2025
1. The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%
The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1% – ตัวท็อปสายลดสิว คุมมัน รูขุมขนกระชับ หากพูดถึงเซรั่มที่ครองใจสายดูแลผิวแบบ มินิมอล และเห็นผลจริงในราคาจับต้องได้ The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1% คือหนึ่งในไอเทมที่ห้ามพลาด โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมองหา ไนอะซินาไมด์ ลดรอยสิว และช่วยเรื่องคุมความมันอย่างมีประสิทธิภาพ จุดเด่นของเซรั่มตัวนี้อยู่ที่ความเข้มข้นของ วิตามินบี3 ทาหน้า ที่สูงถึง 10% ผสานกับ Zinc 1% ช่วยลดการอักเสบของผิว และควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกินได้ดี เหมาะกับคนผิวมัน ผิวผสม หรือผู้ที่มีปัญหาสิวซ้ำซาก
เนื้อเซรั่มมีความใส ไม่เหนียว ซึมเร็ว ใช้ง่ายในรูทีนทั้งเช้าและเย็น ที่สำคัญยังไม่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ ทำให้เหมาะกับผิวแพ้ง่ายด้วย สำหรับปี 2025 นี้ เซรั่มตัวนี้ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมของสาย เซรั่มบำรุงผิวหน้า 2025 ที่เน้นผลลัพธ์จริง ไม่เน้นแพ็กเกจจิ้งจ๋า
คุณสมบัติเด่น
- ช่วยลดการอักเสบของผิวและลดสิวอุดตัน
- กระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
- ควบคุมความมันส่วนเกินระหว่างวัน
- ลดเลือนรอยแดง รอยดำจากสิว
- ปรับสมดุลผิวโดยไม่ทำให้แห้งลอก
- ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ และซิลิโคน เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
- ใช้ร่วมกับเซรั่มอื่นได้โดยไม่เกิดการระคายเคือง
2. La Roche-Posay Mela B3 Serum MELASYL
สำหรับใครที่กำลังมองหาเซรั่มที่ช่วยลดจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำ La Roche-Posay Mela B3 Serum MELASYL คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในปี 2025 ที่หลายแบรนด์เริ่มแข่งขันพัฒนาเซรั่มไวท์เทนนิ่งให้มีประสิทธิภาพและอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น เซรั่มตัวนี้โดดเด่นด้วยนวัตกรรม MELASYL™ ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ใหม่ที่พัฒนาร่วมกับนักวิจัย เพื่อเจาะลึกปัญหาฝ้าจากต้นตอ และทำงานร่วมกับ ไนอะซินาไมด์ ลดรอยสิว เพื่อผลลัพธ์ที่เห็นชัดเจนในเรื่องความกระจ่างใส
นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหา วิตามินบี3 ทาหน้า ที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ใช้ได้กับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวแพ้ง่าย เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมไว ไม่เหนอะหนะ จึงเหมาะกับการใช้เป็นประจำทั้งเช้าและก่อนนอน ถือเป็นหนึ่งในตัวเต็งของกลุ่ม เซรั่มบำรุงผิวหน้า 2025 ที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมจากผู้ใช้จริงจำนวนมาก
คุณสมบัติเด่น
- มีสาร MELASYL™ ที่ช่วยลดจุดด่างดำและความหมองคล้ำอย่างตรงจุด
- ผสาน Niacinamide (วิตามินบี3) เพื่อช่วยเรื่องรอยสิวและสีผิวไม่สม่ำเสมอ
- ช่วย กระชับรูขุมขน อย่างเป็นธรรมชาติ
- ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
- เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
3. Paula’s Choice 10% Niacinamide Booster
สำหรับใครที่กำลังตามหาเซรั่มที่ช่วย ลดรอยสิว พร้อมควบคุมความมันและดูแลผิวให้ดูเรียบเนียนแบบครบในขวดเดียว Paula’s Choice 10% Niacinamide Booster คือหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากผู้ใช้จริง โดยเฉพาะในปี 2025 ที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับส่วนผสมเฉพาะทางมากขึ้น ไนอะซินาไมด์ หรือ วิตามินบี3 ทาหน้า ในความเข้มข้น 10% ของสูตรนี้ ช่วยปรับสภาพผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ลดการอักเสบของสิว และเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้นอย่างเห็นผล นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่กำลังมองหาโซลูชันสำหรับ รูขุมขนกระชับ ตัวไหนดี เพราะเนื้อเซรั่มบางเบา ไม่อุดตัน และสามารถผสมเข้ากับสกินแคร์ตัวอื่นได้ง่าย จึงเหมาะกับทุกขั้นตอนในรูทีนบำรุงผิวหน้า
คุณสมบัติเด่น
- ไนอะซินาไมด์เข้มข้น 10% ช่วยลดรอยดำและรอยสิวให้จางลง
- ช่วยกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
- เสริมเกราะป้องกันผิว ลดการระคายเคืองจากสิ่งแวดล้อม
- เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตัน
- เหมาะสำหรับผิวมัน-ผิวผสม รวมถึงผิวที่เป็นสิวง่าย
- ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในรูทีนได้ง่าย เช่น เซรั่มบำรุงผิวหน้า 2025 หรือมอยส์เจอไรเซอร์ประจำวัน
4. MizuMi Advance Niacinamide 15 Concentrate Serum
หากคุณกำลังมองหาเซรั่มที่ตอบโจทย์เรื่องผิวหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง และรอยสิว MizuMi Advance Niacinamide 15 Concentrate Serum ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับปีนี้ ด้วยความเข้มข้นของ ไนอะซินาไมด์ ลดรอยสิว ถึง 15% ผสานกับสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยปลอบประโลมผิว ทำให้เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายหรือกำลังฟื้นฟูสภาพผิวจากสิวอักเสบ จุดเด่นของเซรั่มตัวนี้คือช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น รูขุมขนดูเล็กลง พร้อมควบคุมความมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากความเข้มข้นของ วิตามินบี3 ทาหน้า ที่เป็นหัวใจหลักของสูตรนี้ MizuMi ยังพัฒนาเนื้อสัมผัสให้บางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนอะหนะ เหมาะกับผู้ที่ใช้สกินแคร์หลายขั้นตอน หรือแม้แต่คนที่มีผิวมันก็สามารถใช้ได้โดยไม่กังวลเรื่องอุดตัน
หากคุณกำลังหาว่า “รูขุมขนกระชับ ตัวไหนดี” หรือกำลังมองหา เซรั่มบำรุงผิวหน้า 2025 ที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ยังอ่อนโยน MizuMi Advance Niacinamide 15 ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ควรลอง
คุณสมบัติเด่น
- ไนอะซินาไมด์เข้มข้น 15% ช่วยลดรอยสิวและจุดด่างดำ
- ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
- ควบคุมความมันส่วนเกิน ลดโอกาสเกิดสิวซ้ำ
- ไม่มีน้ำหอม พาราเบน แอลกอฮอล์ และน้ำมัน
- เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- เหมาะกับผิวแพ้ง่ายและทุกสภาพผิว
5. COSRX The Niacinamide 15 Serum
หากคุณกำลังมองหาเซรั่มลดรอยสิวที่เข้มข้นและเห็นผลไว COSRX The Niacinamide 15 Serum คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยส่วนผสมหลักอย่าง ไนอะซินาไมด์เข้มข้น 15% ซึ่งเป็น วิตามินบี3 ทาหน้า ที่ช่วยปรับสมดุลผิว ลดการอักเสบของสิว และกระชับรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สูตรนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อคนที่มีปัญหาสิวซ้ำซาก จุดด่างดำ และรูขุมขนกว้างโดยเฉพาะ ความเข้มข้นในระดับนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เคยใช้ไนอะซินาไมด์มาก่อน และต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนในเวลาอันรวดเร็ว
นอกจากนี้ เนื้อเซรั่มยังบางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับการใช้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะในปี 2025 ที่หลายคนกำลังมองหา เซรั่มบำรุงผิวหน้า 2025 ที่เน้นการดูแลรูขุมขนและรอยสิวโดยเฉพาะ ตัวนี้จึงเป็นคำตอบที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ประสิทธิภาพและราคา
คุณสมบัติเด่น
- ไนอะซินาไมด์เข้มข้น 15% ช่วย ลดรอยสิวและรอยดำจากสิว
- เสริมการทำงานของผิวในการ กระชับรูขุมขน
- ลดความมันบนใบหน้า เหมาะกับคนผิวผสมถึงผิวมัน
- ผสานสารบำรุงอื่น ๆ เช่น Zinc PCA และ Allantoin เพื่อช่วยปลอบประโลมผิว
- ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
- เหมาะกับการใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
6. SKINTIFIC 10% Niacinamide Brightening Serum
SKINTIFIC 10% Niacinamide Brightening Serum เป็นหนึ่งในเซรั่มบำรุงผิวหน้าที่ได้รับความนิยมในปี 2025 ด้วยจุดเด่นของสารสกัดหลักอย่าง ไนอะซินาไมด์เข้มข้น 10% ที่ขึ้นชื่อเรื่องการช่วยลดเลือนรอยสิวและปรับผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหา วิตามินบี3 ทาหน้า ที่อ่อนโยนและเห็นผลจริง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีปัญหารอยดำ รอยแดง หรือผิวหมองคล้ำสะสม เซรั่มตัวนี้ยังได้รับคำชื่นชมในเรื่องของเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมไว ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวแพ้ง่าย นอกจากนี้ยังมีการผสานด้วย Zinc PCA และ Alpha Arbutin ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการควบคุมความมัน และลดการเกิดสิวในระยะยาว สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า รูขุมขนกระชับ ตัวไหนดี เซรั่มตัวนี้ก็ตอบโจทย์ได้อย่างดี ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยกระชับรูขุมขนและฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนอย่างเห็นได้ชัด
คุณสมบัติเด่น
- มี ไนอะซินาไมด์ ลดรอยสิว เข้มข้นถึง 10% ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
- ผสาน Zinc PCA ช่วยควบคุมความมันและลดการเกิดสิว
- มี Alpha Arbutin ช่วยลดจุดด่างดำและความหมองคล้ำ
- เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมันและผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย
- ปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน และน้ำหอม
7. Neutrogena Hydro Boost Niacinamide Serum
หากคุณกำลังมองหา เซรั่มบำรุงผิวหน้า 2025 ที่ให้ความชุ่มชื้นล้ำลึกและช่วยลดปัญหารอยสิวได้อย่างตรงจุด Neutrogena Hydro Boost Niacinamide Serum คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าจับตามอง ด้วยการผสานระหว่าง Niacinamide (วิตามินบี3 ทาหน้า) และ Hyaluronic Acid ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว เติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูฟูอิ่มน้ำ พร้อมฟื้นฟูผิวที่หมองคล้ำจากการทำร้ายของแสงแดดและมลภาวะ สำหรับใครที่มีปัญหา รูขุมขนกว้าง หรือผิวไม่สม่ำเสมอ เซรั่มตัวนี้สามารถช่วยกระชับรูขุมขนและปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวมันหรือผิวแพ้ง่ายที่มองหาเซรั่มเนื้อบางเบา
คุณสมบัติเด่น
- มี ไนอะซินาไมด์ ลดรอยสิว และจุดด่างดำ
- เติมน้ำให้ผิวด้วย Hyaluronic Acid
- เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมไว ไม่เหนอะหนะ
- ช่วยให้ รูขุมขนกระชับ ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- เหมาะสำหรับผิวมันและผิวแพ้ง่าย
- ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
8. PAPA FEEL Niacinamide 10% Serum
หากคุณกำลังมองหาเซรั่มที่ตอบโจทย์เรื่อง ผิวกระจ่างใส ลดรอยสิว และรูขุมขนกระชับ อย่างเห็นผลในงบที่จับต้องได้ PAPA FEEL Niacinamide 10% Serum คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามองในปี 2025 เซรั่มตัวนี้ใช้ไนอะซินาไมด์ความเข้มข้นถึง 10% ซึ่งถือเป็นระดับที่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดการอักเสบของผิว ลดเลือนจุดด่างดำ พร้อมเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น เหมาะสำหรับคนที่กำลังเผชิญปัญหาผิวไม่เรียบ สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือมีรอยสิวจากการอักเสบเรื้อรัง ด้วยความบางเบาและซึมไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวมันหรือผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้โดยไม่ระคายเคือง ตัวนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจากผู้ใช้จริงในโซเชียลมีเดียที่ต้องการผลลัพธ์ในเรื่อง ไนอะซินาไมด์ ลดรอยสิว อย่างชัดเจน และยังติดโผ “เซรั่มบำรุงผิวหน้า 2025 ที่คุ้มค่าคุณภาพเกินราคา” อีกด้วย
คุณสมบัติเด่น
- ไนอะซินาไมด์เข้มข้น 10% ช่วยลดรอยดำและจุดด่างจากสิว
- กระชับรูขุมขนและควบคุมความมันบนใบหน้า
- ปรับสมดุลผิวให้เรียบเนียนและสม่ำเสมอ
- เนื้อบางเบา ซึมไว ไม่อุดตันรูขุมขน
- ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
- เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้นในระยะยาว
- เหมาะสำหรับผู้ที่มองหา วิตามินบี3 ทาหน้า อย่างได้ผล
9. The Skin Collection Serum Niacinamide 10% + NAG 8%
The Skin Collection Serum Niacinamide 10% + NAG 8% เป็นเซรั่มบำรุงผิวหน้าที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการจัดการปัญหารอยสิวและรูขุมขนกว้าง ด้วยส่วนผสมหลักอย่าง Niacinamide เข้มข้นถึง 10% ผสานกับ N-Acetyl Glucosamine (NAG) 8% ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของกลูโคสที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เซรั่มสูตรนี้ถูกออกแบบมาให้เนื้อบางเบา ซึมซาบไว ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า เหมาะกับผู้ที่มีผิวมันถึงผิวผสม หรือผู้ที่ต้องการลดเลือนจุดด่างดำโดยไม่ระคายเคือง
การใช้ ไนอะซินาไมด์ ลดรอยสิว อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผิวดูสว่างขึ้น สีผิวสม่ำเสมอ และดูมีสุขภาพดี โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ NAG ที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ ทำให้เซรั่มตัวนี้โดดเด่นในกลุ่ม วิตามินบี3 ทาหน้า ที่มีประสิทธิภาพสูงและเหมาะกับการดูแลผิวในปี 2025 ใครที่กำลังมองหา รูขุมขนกระชับ ตัวไหนดี ตัวนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
คุณสมบัติเด่น
- Niacinamide 10% ช่วยลดรอยแดง รอยดำ และเสริมเกราะป้องกันผิว
- NAG 8% เร่งการผลัดเซลล์ผิว เผยผิวกระจ่างใสอย่างอ่อนโยน
- เนื้อเซรั่มบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมไว เหมาะกับทุกสภาพผิว
- ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารระคายเคือง เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
- ช่วยควบคุมความมันระหว่างวัน ลดโอกาสการเกิดสิวใหม่
- เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหา เซรั่มบำรุงผิวหน้า 2025 ที่เน้นผลลัพธ์จริงจากสารสำคัญเข้มข้น
10. INGU Brightening Crystal Serum
หากคุณกำลังมองหา เซรั่มบำรุงผิวหน้า 2025 ที่เน้นความกระจ่างใสและปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว “INGU Brightening Crystal Serum” คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามอง ด้วยฟอร์มูล่าที่เน้นสารบำรุงเข้มข้นอย่าง Niacinamide หรือ วิตามินบี3 ทาหน้า ที่ช่วยให้ผิวดูเนียนเรียบ ลดการอักเสบจากสิว พร้อมฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรงขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง จุดเด่นของเซรั่มตัวนี้คือเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบไว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน ผิวผสม หรือแม้กระทั่งผิวบอบบางแพ้ง่าย ด้วยสูตรที่ไม่มีพาราเบน น้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังช่วยลดจุดด่างดำ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับใครที่มีปัญหา รูขุมขนกว้าง หรือกำลังหา รูขุมขนกระชับ ตัวไหนดี เซรั่มตัวนี้ก็ตอบโจทย์เช่นกัน
คุณสมบัติเด่น
- มีส่วนผสมของ Niacinamide เข้มข้น 10%
- ช่วยลดรอยสิวและจุดด่างดำอย่างเห็นผล
- กระชับรูขุมขน ให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมเร็ว ไม่อุดตัน
- ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม และพาราเบน
- เหมาะกับผิวแพ้ง่ายและผู้ที่เป็นสิวง่าย
- เหมาะสำหรับใช้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน
วิธีเลือก Niacinamide ให้เหมาะกับผิว
Niacinamide หรือ วิตามินบี3 ทาหน้า เป็นสารบำรุงผิวสารพัดประโยชน์ที่เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลผิวแบบครอบคลุม ทั้งเรื่องรอยสิว รูขุมขนกว้าง ผิวมัน หรือผิวหมองคล้ำ อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ให้ตรงกับสภาพผิวและปัญหาผิวเฉพาะบุคคล จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและลดโอกาสการระคายเคืองได้ดีขึ้น
1. เลือกตามความเข้มข้น
- เริ่มต้นที่ 2%–5% เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ หรือมีผิวแพ้ง่าย เพื่อทดสอบการตอบสนองของผิวก่อน
- ระดับ 10% ให้ผลชัดเจนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา รอยดำจากสิว รูขุมขนไม่กระชับ หรือผิวมันง่าย
2. เลือกตามส่วนผสมร่วม
การทำงานของ Niacinamide จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับสารที่เสริมฤทธิ์ เช่น:
- Zinc: ควบคุมความมัน ลดการอักเสบ เหมาะกับคนเป็นสิว
- Hyaluronic Acid: เติมน้ำให้ผิว ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู ไม่แห้งลอก
- Alpha Arbutin: ช่วยลดจุดด่างดำ เสริมความกระจ่างใสแบบปลอดภัย
หากคุณกำลังมองหา รูขุมขนกระชับ ตัวไหนดี ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีทั้ง Niacinamide และ Zinc เพื่อช่วยทั้งลดความมันและทำให้ผิวดูเรียบเนียน
3. เลือก Niacinamide ตามประเภทผิว
3.1 ผิวมัน / ผิวเป็นสิวง่าย
- แนะนำความเข้มข้น: 4-10%
- เหตุผล: ช่วยควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน ลดสิวอักเสบ
- ควรใช้ร่วมกับ: Zinc PCA, Salicylic Acid เพื่อเสริมการควบคุมความมัน
3.2 ผิวแห้ง / ผิวแพ้ง่าย
- แนะนำความเข้มข้น: 2-5%
- เหตุผล: ลดการระคายเคือง เสริมเกราะป้องกันผิวโดยไม่ทำให้แห้งมากขึ้น
- ควรใช้ร่วมกับ: Hyaluronic Acid, Ceramides เพื่อเติมความชุ่มชื้น
3.3 ผิวผสม
- แนะนำความเข้มข้น: 5%
- เหตุผล: สมดุลทั้งการควบคุมความมันและเพิ่มความชุ่มชื้น
- ควรใช้ร่วมกับ: BHA หรือ AHA อ่อนๆ เพื่อผลัดเซลล์ผิวร่วมด้วย
4. ปรึกษาแพทย์หากมีปัญหาสิวเรื้อรัง
แม้ว่า Niacinamide จะอ่อนโยน แต่ผู้ที่มีสิวอักเสบเรื้อรังหรือใช้ยารักษาสิวอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนใช้ เพื่อป้องกันการระคายเคือง หรือผลกระทบที่อาจเกิดจากการใช้ร่วมกับสารอื่น
ความเข้มข้นของ Niacinamide มีผลอย่างไร?
ความเข้มข้น | เหมาะกับ | ผลลัพธ์หลัก |
---|---|---|
2-3% | ผิวแพ้ง่าย | ลดการระคายเคือง เสริมเกราะผิว |
4-5% | ผิวทั่วไป | ควบคุมความมัน รอยแดง |
10% | ผิวมันมาก | ลดสิว กระชับรูขุมขน |
>10% | ระวังการระคายเคือง | ไม่แนะนำใช้เป็นประจำทุกวัน |
วิธีใช้ให้เห็นผล
- ทาหลังล้างหน้า: ก่อนลงมอยส์เจอไรเซอร์
- ใช้วันละ 1-2 ครั้ง: เช้า-เย็น (ขึ้นอยู่กับความเข้มข้น)
- อย่าผสมกับวิตามินซีเข้มข้นในขั้นตอนเดียวกัน: เพราะอาจลดประสิทธิภาพกันได้
- ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้งานจริง: โดยแต้มหลังใบหูหรือท้องแขน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ได้แน่นอนครับ Niacinamide เป็นสารบำรุงที่อ่อนโยนต่อผิว จึงสามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวันทั้งเช้าและก่อนนอน โดยควรเริ่มจากความเข้มข้น 2%–5% สำหรับผู้เริ่มต้น และสามารถเพิ่มระดับเป็น 10% หากผิวรับได้ดี การใช้ต่อเนื่องจะช่วยให้เห็นผลในเรื่อง ผิวกระจ่างใส รูขุมขนกระชับ และลดรอยสิว อย่างชัดเจน
สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ควรใช้ให้ถูกลำดับ โดยทา BHA (เช่น Salicylic Acid) ก่อน เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดสิวอุดตัน จากนั้นตามด้วย Niacinamide เพื่อปลอบประโลมและบำรุงผิว หากคุณกำลังมองหา เซรั่มลดสิวอุดตัน ที่อ่อนโยน Niacinamide จึงเป็นตัวช่วยที่ดีและไม่รบกวนผิวเมื่อใช้คู่กับกรดผลัดเซลล์ผิว
โดยทั่วไป Niacinamide ปลอดภัยสำหรับผิวทุกประเภท แต่ในบางกรณี เช่น หากใช้ความเข้มข้นสูงเกินไป หรือใช้ร่วมกับสารบางชนิด อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผิวแดง หรือรู้สึกร้อนยุบยิบได้ แนะนำให้เริ่มจากความเข้มข้นต่ำ และทดสอบกับผิวบริเวณเล็ก ๆ ก่อนใช้งานจริง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบาง